
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 36.67 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าข้างหลังดอลลาร์แข็งค่า ข้างหลังได้รับแรงหนุนจากการรีบขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ยของเฟด จับตายอดขายปลีกสหรัฐอเมริกา ในคืนวันนี้
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินแบงค์กรุงไทย เจาะจง ค่าเงินบาท เปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 36.67บาทต่อดอลลาร์“อ่อนค่า”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.61 บาทต่อดอลลาร์ โดยแนวโน้มเงินบาทบางทีอาจขยับเขยื้อนในกรอบเดิมต่อ กระทั่งจะมีต้นสายปลายเหตุใหม่ๆเข้ามา โดยในตอนนี้ หัวข้อหลักที่ผู้เล่นในตลาดต่างคอยจับตาหมายถึงแนวโน้มการปรับขึ้นดอกหลักการของเฟด
ซึ่งตลาดจะรอคอยลุ้นว่าเฟดจะมีการปรับคาดคะเนอัตราค่าดอกเบี้ยแผนการ หรือ Dot Plot รวมทั้งเฟดจะมีการปรับมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา อย่างไรบ้าง ดังนี้ ประเมินว่า ถ้าหากตลาดมิได้ปิดรับการเสี่ยงร้ายแรง (ซึ่งอาจมาจากความไม่สาบายใจปัญหาเศรษฐกิจจีนหรือภาพการ Lockdown เพิ่มในจีน รวมทั้งความไม่ค่อยสบายใจวิกฤตพลังงานในยุโรป) เงินบาทก็บางทีอาจมิได้อ่อนค่าสม่ำเสมอไปๆมาๆก
โดยแนวต่อต้านของเงินบาทจะยังคงอยู่ในตอน 36.75-36.80 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากว่าผู้ส่งออกหลายชิ้นบางทีอาจคอยทยอยขายเงินดอลลาร์ในระดับดังที่กล่าวถึงมาแล้ว นอกจากนั้น แรงขายทรัพย์สินไทยจากนักลงทุนต่างประเทศก็มิได้ร้ายแรงเท่าไรนัก จากที่เคยคาดเดาไว้ ช่วงเวลาที่นักลงทุนต่างประเทศนิดหน่อยก็ทยอยกลับเข้ามาซื้อบอนด์ระยะยาวไทยเยอะขึ้น ข้างหลังบอนด์ยีลด์มีการปรับพฤติกรรมสูงมากขึ้น ทำให้เงินบาทบางทีอาจมิได้พบเจอแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าจากแนวโน้มฟันด์โฟลว์ไหลออกอย่างที่ตลาดเคยวิตกกังวลก่อนหน้า
อนึ่ง อาจคิดว่า โฟลว์ธุรกรรมซื้อทองในจังหวะราคาย่อตัวบางทีอาจยังคงเป็นแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาทได้ กระทั่งที่ราคาทองจะสามารถปรับนิสัยขึ้นตลอดใกล้โซนแนวต้านทาน 1,740-1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็จะเริ่มมีโฟลว์ขายทำเงิน ซึ่งก็จะเป็นเหตุที่สามารถช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินบาทได้เช่นเดียวกัน
ในตอนที่ตลาดการคลังปั่นป่วนสูงจากความไม่เที่ยงของหลายสาเหตุอาจจะชี้แนะให้ผู้ประกอบธุรกิจควรที่จะใช้แผนการคุ้มครองปกป้องการเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่นานาประการเพิ่มมากขึ้น โดยยิ่งไปกว่านั้นการใช้ Options ซึ่งจะช่วยทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับเพื่อการคุ้มครองการเสี่ยงก้าวหน้าในตอนที่ตลาดผันแปรหนักดูกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.55-36.80 บาท/ดอลลาร์
ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา รีบาวด์ขึ้นนิดนึง โดยดรรชนี S&P500 สามารถปิดตลาด +0.34% ส่วนดัชนีตลาดหุ้นเทคฯ Nasdaq รีบาวด์ขึ้นราว +0.74% ตามแรงซื้อหุ้นในจังหวะย่อตัวของบรรดาผู้เล่นในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงซื้อหุ้นเทคฯ และก็หุ้นสไตล์ Growth (Tesla +3.6%, Amazon +1.4%)
อย่างไรก็แล้วแต่ ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา บางทีอาจแกว่งไกวตัว sideways เนื่องมาจากผู้เล่นส่วนมากยังคงไม่กล้าเปิดรับการเสี่ยงมากเท่าไรนัก ท่ามกลางความรู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจว่า เฟดบางทีอาจจำเป็นต้องรีบขึ้นดอกร้ายแรงตลอดเพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อ โดยปัจจุบัน จาก CME FedWatch Tool ตลาดยังคงคิดว่า เฟดได้โอกาสราว 25% ที่จะรีบขึ้นดอกถึง +1.00% สำหรับในการสัมมนากันยายน และก็ตลาดยังดูอีกว่าเฟดบางทีอาจรีบขึ้นดอกกระทั่งสัมผัสระดับ 4.50% ด้านในปลายปีนี้